
GUI ย่อมาจากอะไร
A. Graph User Icon
B. Graph and Unit Internal
C. Graphical User Interface
D. Graphical User Icon
ANSWER: C
สัญลักษณ์รูป (icons) เป็นการแทนสิ่งใด
A. ข้อผิดพลาด
B. การคำนวณค่า
C. การประมวลผลของโปรแกรม
D. คำสั่งต่างๆของโปรแกรม
ANSWER: D
ข้อใดคือความหมายของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Program)
A. ชุดของคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆตามที่โปรแกรมกำหนดไว้
B. ชุดของคำสั่งที่ใช้ในการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์
C. ส่วนของโปรแกรมที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้
D. ส่วนของโปรแกรมที่ตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม
ANSWER: A
การนำข้อมูลเข้า (Input Specification) หมายถึงสิ่งใด
A. เป็นการกำหนดปัญหาโปรแกรม
B. เป็นการกำหนดข้อมูลที่ต้องป้อนเข้าสู่โปรแกรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
C. เป็นการกำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการ
D. เป็นการกำหนดสิ่งที่ต้องประมวลผล
ANSWER: B
กลุ่มของคำสัญลักษณ์และรหัสต่างๆที่โปรแกรมเมอร์เขียนขึ้นเพื่อสื่อสารคำสั่งกับคอมพิวเตอร์คือความหมายของข้อใด
A. การออกแบบโปรแกรม
B. การลงรหัสโปรแกรม
C. การติดตั้งโปรแกรม
D. ภาษาโปรแกรมมิ่ง
ANSWER: D
ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
A. การหาทีมงานในการพัฒนาโปรแกรม
B. การทดสอบโปรแกรม
C. การบำรุงรักษาโปรแกรม
D. การแก้ไขโปรแกรม
ANSWER: A
ข้อใดไม่ใช่การวิเคราะห์และกำหนดขอบเขตของปัญหา/งาน
A. ความต้องการของระบบ
B. กำหนดองค์ประกอบของโปรแกรม
C. การตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม
D. การรวบรวมข้อมูล
ANSWER: C
ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม
A. การทดสอบผลลัพธ์ที่ได้จาก Algorithm
B. การออกแบบข้อมูลนำเข้า
C. การแบ่งหน้าที่หลักของโปรแกรมออกเป็น Module ต่างๆ
D. การออกแบบ Algorithm ให้แต่ละ Module
ANSWER: B
ข้อใดคือการบำรุงรักษาโปรแกรม
A. ติดตั้งโปรแกรมให้ผู้ใช้ได้ใช้งาน
B. ทดสอบทุกฟังก์ชั่นการทำงานของโปรแกรม
C. แก้ไข Error ที่พบระหว่างการใช้งานโปรแกรมจริงจากผู้ใช้และปรับปรุงเพิ่มเติมความสามารถให้กับโปรแกรม
D. เปลี่ยน Algorithm ในขั้นตอนที่ 2 ให้เป็นภาษาโปรแกรมมิ่ง
ANSWER: C
ลักษณะโปรแกรมที่ดีตรงกับข้อใด
A. การแบ่งหน้าที่หลักของโปรแกรมออกเป็นฟังก์ชั่นต่างๆ
B. สามารถป้อนค่าข้อมูลได้
C. สามารถประมวลผลได้
D. ได้ผลลัพธ์ถูกต้องและตรงตามความต้องการ
ANSWER: D
ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของโปรแกรม
A. Input
B. Output
C. Process
D. Progess
ANSWER: D
Output ต้องกำหนดรายละเอียดอะไรบ้าง
A. กำหนดวัตถุประสงค์ของโปรแกรมและผลลัพธ์
B. กำหนดวัตถุประสงค์ของโปรแกรมและปัญหา
C. กำหนดปัญหาของโปรแกรมและผลลัพธ์
D. กำหนดปัญหาของโปรแกรมและรายละเอียด
ANSWER: A
Input ต้องพิจารณาจากอะไร
A. Item
B. Data
C. Output
D. Problem
ANSWER: C
ข้อใดไม่ใช่กระบวนการรวบรวมข้อมูล
A. การสังเกต
B. การสัมภาษณ์
C. แบบสอบถาม
D. การวิเคราะห์
ANSWER: D
จากการวิเคราะห์ปัญหาเรื่องรับและพิมพ์รหัสบัตรประชาชนพร้อมชื่อ-นามสกุลOutput คือข้อใด
A. รับรหัสบัตรประชาชนและชื่อ-นามสกุล
B. รายการข้อมูล (ชื่อ-นามสกุล) ขนาดข้อมูล(50 หลัก) ลักษณะข้อมูล(ตัวหนังสือ) ตัวอย่าง(สมชายชาติทหาร)
C. พิมพ์และแสดงรหัสบัตรประชาชนและชื่อ-นามสกุล
D. รายการข้อมูล ( รหัสบัตรประชาชน) ขนาดข้อมูล(13 หลัก ) ลักษณะข้อมูล(ตัวเลข ) ตัวอย่าง(3110485659125)
ANSWER: C
จากการวิเคราะห์ปัญหาเรื่องรับข้อมูลและแสดงผลสูตรคูณแม่ 2 ถึงแม่ 12
Process คือข้อใด
A. รับข้อมูลตัวเลข
B. คำนวณสูตรคูณ
C. แสดงผลลัพธ์สูตรคูณทางจอภาพ
D. รายการข้อมูล(สูตรคูณแม่) ขนาดข้อมูล(2 หลัก) ลักษณะข้อมูล(ตัวเลข) ตัวอย่าง(10)
ANSWER: B
พิจารณา Input ของการวิเคราะห์ปัญหาเรื่องรับข้อมูลและแสดงผลสูตรคูณแม่ 2 ถึงแม่ 12 คือข้อใด
A. รับข้อมูลตัวเลข
B. คำนวณสูตรคูณ
C. แสดงผลลัพธ์สูตรคูณทางจอภาพ
D. รายการข้อมูล(สูตรคูณแม่) ขนาดข้อมูล( 2 หลัก) ลักษณะข้อมูล (ตัวเลข ) ตัวอย่าง(10)
ANSWER: D
ข้อใดคือความหมายของคำว่า Pseudo code
A. คือการออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม
B. คือการเขียน Algorithm โดยใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพเพื่ออธิบายการทำงานของโปรแกรมแทนข้อความเพื่อสื่อความหมายทำให้ง่ายและสะดวก
C. คือการเขียน Algorithm โดยใช้ภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายต่างๆสามารถแปลงเป็นโปรแกรมได้ง่าย
D. คือการลงรหัสเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานได้
ANSWER: C
ข้อใดคือความหมายของคำว่า Flowchart
A. คือการออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม
B. คือการเขียน Algorithm โดยใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพเพื่ออธิบายการทำงานของโปรแกรมแทนข้อความเพื่อสื่อความหมายทำให้ง่ายและสะดวก
C. คือการเขียน Algorithm โดยใช้ภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายต่างๆสามารถแปลงเป็นโปรแกรมได้ง่าย
D. คือการลงรหัสเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานได้
ANSWER: B
ข้อใดไม่ใช่หลักในการเขียนผังงาน
A. ควรทำหัวลูกศรกำกับทิศทางเพื่อให้ทราบทิศทางการทำงานที่ชัดเจน
B. ขนาดของสัญลักษณ์ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
C. สามารถตรวจสอบความถูกต้องของลำดับขั้นตอนการทำงานได้อย่างสะดวกและดีกว่าการเขียนโปรแกรมจากโจทย์
D. ทิศทางการไหลของข้อมูลเริ่มจากบนลงล่างหรือจากซ้ายไปขวายกเว้นกรณีการทำงานแบบวนรอบจะมีเส้นทางย้อนกลับมาด้านบน
ANSWER: C
ข้อใดคือประโยชน์ของการเขียนผังงาน
A. มีการเขียนคำอธิบายการทำงานในแต่ละขั้นตอนใช้ข้อความที่สั้นชัดเจนและเข้าใจง่ายโดยเขียนภายในสัญลักษณ์
B. พยายามให้เกิดจุดตัดน้อยที่สุดหรืออาจใช้สัญลักษณ์ที่เรียกว่า "จุดต่อ" (Connector) แทนเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
C. ผังงานที่ดีควรเป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาดชัดเจนเข้าใจและติดตามขั้นตอนได้ง่าย
D. สามารถทำการบำรุงรักษาโปรแกรมได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ANSWER: D
ข้อใดไม่ใช่ข้อจำกัดของผังงาน
A. จะต้องมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของงานและควรมีอย่างละจุดเท่านั้น
B. เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถรับรู้และเข้าใจได้ว่าผังงานนั้นต้องการให้ทำอะไรเพราะผังงานเป็นสิ่งที่ช่วยในการสื่อระหว่างบุคคลกับบุคคลให้เข้าใจตรงกันถึงการทำงานของโปรแกรมที่จะพัฒนา
C. ทุกๆขั้นตอนของผังงานจะใช้รูปภาพหรือสัญลักษณ์ในมาตรฐานแบบเดียวกันทำให้ผู้พัฒนาโปรแกรมไม่สามารถทราบได้ว่าขั้นตอนการทำงานใดสำคัญกว่ากัน
D. ผู้เขียนโปรแกรมบางคนไม่นิยมเขียนผังงานก่อนการเขียนโปรแกรมเพราะเห็นว่าเสียเวลา
ANSWER: A
หลักการตั้งชื่อไม่สามารถใช้สัญลักษณ์ในข้อใด
A. ?,฿, @, &, #
B. a, b, c, d,..., z
C. ก, ข, ค, ง,...,ฮ
D. " _ "
ANSWER: A
ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลประเภทจำนวนเต็ม
A. Long
B. Byte
C. Boolean
D. Single
ANSWER: D
ข้อมูลชนิดใดที่มีการเก็บข้อมูลหรือช่วงข้อมูลระหว่าง 0 ถึง 255
A. Long
B. Byte
C. Boolean
D. Single
ANSWER: B
ข้อมูลชนิดใดที่มีการเก็บค่า 0 และ -1 ซึ่งแทนFalseหรือ True
A. Long
B. Byte
C. Boolean
D. Single
ANSWER: C
ข้อใดคือลักษณะของการประกาศค่าตัวแปรแบบสาธารณะ (Public)
A. ทุกส่วนของโปรแกรมสามารถมองเห็นและเรียกใช้ตัวแปรที่ประกาศได้
B. เฉพาะในส่วนของโปรแกรมที่ทำการกำหนดค่าของตัวแปรเท่านั้นที่จะสามารถมองเห็นและ เรียกใช้ตัวแปรที่ประกาศได้
C. เฉพาะในส่วนของโปรแกรมที่ทำการกำหนดค่าของตัวแปรเท่านั้นที่ไม่สามารถมองเห็น หรือเรียกใช้ตัวแปรที่ประกาศได้
D. ในส่วนอื่นๆของโปรแกรมจะไม่สามารถมองเห็นและไม่สามารถเรียกใช้ได้
ANSWER: A
จากการใช้โอเปอเรเตอร์ที่ใช้ในการคำนวณคณิตศาสตร์จะได้ผลลัพธ์เป็นเท่าไหร่เมื่อ 33 + 6 * 12
A. 468
B. 486
C. 150
D. 105
ANSWER: D
จากการใช้โอเปอเรเตอร์ที่ใช้ในการคำนวณคณิตศาสตร์จะได้ผลลัพธ์เป็นเท่าไหร่เมื่อ 90/3^2
A. 15
B. 900
C. 10
D. 11
ANSWER: C
กำหนดให้ Name = "Somchai" , Grade = " A " จงหาผลลัพธ์ที่เกิดจากName = "Somchai" Or Grade = " A " ตรงกับข้อใด
A. False
B. True
C. SomchaiA
D. Somchai A
ANSWER: B
ลำดับของการดำเนินการของโอเปอเรเตอร์ใดที่มีระดับความสำคัญมากที่สุด
A. ()
B. ^
C. Mod
D. Not
ANSWER: A
ข้อใดคือการทำงานแบบเรียงลำดับ (Sequence Structure)
A. เป็นการเขียนโปรแกรมจากคำสั่งหนึ่งไปยังอีกคำสั่งหนึ่งตามลำดับเรียงต่อกันไปเรื่อยๆ
B. เป็นการเขียนโปรแกรมที่แสดงการเลือกอย่างง่ายคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่งรอไว้ เพียงทางเลือกเดียว
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่ง รอไว้ทั้งสองทางเลือก
D. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
ANSWER: A
ข้อใดคือการทำงานแบบทางเลือกกรณี If
A. เป็นการเขียนโปรแกรมจากคำสั่งหนึ่งไปยังอีกคำสั่งหนึ่งตามลำดับเรียงต่อกันไปเรื่อยๆ
B. เป็นการเขียนโปรแกรมที่แสดงการเลือกอย่างง่ายคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่งรอไว้ เพียงทางเลือกเดียว
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่งรอไว้ทั้งสองทางเลือก
D. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
ANSWER: B
ข้อใดคือการทำงานแบบทางเลือกกรณี If-Else
A. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นจริง
B. เป็นการเขียนโปรแกรมที่แสดงการเลือกอย่างง่ายคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่งรอไว้ เพียงทางเลือกเดียว
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่ง รอไว้ทั้งสองทางเลือก
D. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
ANSWER: C
ข้อใดคือการทำงานแบบทางเลือกกรณี Case
A. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นจริง
B. เป็นการเขียนโปรแกรมที่แสดงการเลือกอย่างง่ายคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่งรอไว้ เพียงทางเลือกเดียว
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขคือเลือกแบบมีทางออก 2 ทางโดยจะมีคำสั่ง รอไว้ทั้งสองทางเลือก
D. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
ANSWER: D
ข้อใดคือการทำงานแบบDo...While หมายถึง
A. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นจริง
B. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆจนครบจำนวน
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
D. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นเท็จและจะทำคำสั่ง 1 รอบก่อน ตรวจสอบเงื่อนไข
ANSWER: A
ข้อใดคือการทำงานแบบ Do...Until
A. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นจริง
B. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆจนครบจำนวน
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
D. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นเท็จและจะทำคำสั่ง 1 รอบก่อน ตรวจสอบเงื่อนไข
ANSWER: D
ข้อใดคือการทำงานแบบ While...Wend
A. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นจริง
B. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆจนครบจำนวน
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
D. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นเท็จและจะทำคำสั่ง 1 รอบก่อนตรวจสอบเงื่อนไข
ANSWER: A
ข้อใดคือการทำงานแบบ For Next
A. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นจริง
B. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆจนครบจำนวน
C. เป็นการเขียนโปรแกรมที่ต้องตัดสินใจหรือเลือกเงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้นจะต้องใช้เงื่อนไขหลายๆชั้น
D. เป็นการเขียนโปรแกรมทำซ้ำ (loop) ไปเรื่อยๆภายใต้เงื่อนไขเป็นเท็จและจะทำคำสั่ง 1 รอบก่อนตรวจสอบเงื่อนไข
ANSWER: B
ถ้าต้องการเขียนโปรแกรมคำนวณค่าจอดรถโดยทำการรับค่าและคำนวณค่าจอดรถถ้าจอดรถมากกว่า 2 ชม. คิดชม.ละ 15 บาท (เศษชม. ปัดขึ้น) หลังจากนั้นพิมพ์ค่าจอดรถควรใช้รูปแบบการควบคุมการทำงานของโปรแกรมแบบใดจึงจะดีที่สุด
A. ทางเลือกกรณี If
B. แบบ For Next
C. แบบทางเลือกกรณี Case
D. แบบ While...Wend
ANSWER: A
ถ้าต้องการเขียนโปรแกรมคำนวณค่า n! โดยทำการรับค่าและคำนวนค่า n! ทำได้โดยการวนรอบเพื่อตรวจสอบว่าคำนวนครบตามจำนวน n! หรือยังถ้ายังก็จะต้องวนรอบคำนวณจนกว่าจะครบถ้าครบแล้วให้พิมพ์ค่า n! ควรใช้รูปแบบการควบคุมการทำงานของโปรแกรมแบบใดจึงจะดีที่สุด
A. ทางเลือกกรณี If
B. แบบเรียงลำดับ
C. แบบทางเลือกกรณี Case
D. แบบ Do...Until
ANSWER: D
VB 2008เป็นเครื่องมือในการสร้างโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการอะไร
A. Mac OS
B. Windows
C. Solaris
D. Linux
ANSWER: B
VB 2008ใช้ภาษาอะไรในการเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงาน
A. Basic
B. SQL
C. C++
D. Pascal
ANSWER: A
การสร้างโปรแกรมใน VB2008นั้นทำโดยการเลือกเครื่องมือต่างๆมาออกแบบหน้าจอของโปรแกรมที่ต้องการจะสร้างจึงไม่จำเป็นต้องต้องเขียนคำสั่งต่างๆมากนักก็สามารถสร้างโปรแกรมได้อย่างรวดเร็วเรียกการเขียนโปรแกรมลักษณะนี้ว่าอะไร
A. Structure
B. Visual Basic
C. Visual Programming
D. Object Oriented Programming
ANSWER: C
VB2008เป็นเครื่องมือที่สร้างโปรแกรมต่างๆได้หลากหลายยกเว้นข้อใด
A. โปรแกรมทั่วไปที่รันบนระบบปฏิบัติการ Windows
B. โปรแกรมฐานข้อมูล VB2008
C. คอมโพเน้นต์ทางด้าน ActiveX
D. โปรแกรม 3D
ANSWER: D
การแปลงโปรแกรมที่ได้ออกแบบให้เป็นชุดรหัสคำสั่งในภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่งหมายถึงการทำงานขั้นตอนใดของวงจรการพัฒนาโปรแกรม
A. การออกแบบโปรแกรม
B. การลงรหัสโปรแกรม
C. การบำรุงรักษาโปรแกรม
D. การวิเคราะห์โปรแกรม
ANSWER: B
การเขียนโปรแกรมนั้นควรทำสิ่งใดเพื่อช่วยให้เข้าใจง่ายช่วยในการตรวจสอบสะดวกและสามารถนำรหัสที่เขียนนั้นไปใส่ในเอกสารประกอบโปรแกรมได้ทันที
A. การแทรกคำอธิบาย
B. การแก้ไข Error
C. การ Compiler
D. การตรวจสอบ Logic
ANSWER: A
ข้อใดไม่ใช่โปรแกรมทั่วไปที่รันบนระบบปฏิบัติการWindows ที่สร้างด้วย VB2008
A. โปรแกรมจัดการไฟล์
B. โปรแกรมทางด้านกราฟฟิก
C. โปรแกรมคำนวณเลขพื้นฐาน
D. โปรแกรม Microsoft Office
ANSWER: D
Properties คืออะไร
A. เป็นเครื่องมือในการออกแบบหน้าจอโปรแกรม
B. ลักษณะต่างๆของคอนโทรลที่ถูกนำมาวางบนฟอร์มที่เราสามารถกำหนดค่าได้
C. การใช้คำสั่งกำหนดให้คอนโทรลตอบสนองต่อเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น
D. ใช้เหมือนกับ ActiveX EXE แต่จะถูกเก็บในรูปของ .dllซึ่งไม่สามารถรันได้ด้วยตัวมันเอง จะต้องถูกเรียกใช้งานจากโปรแกรมอื่นๆ
ANSWER: B
Controls คืออะไร
A. เป็นเครื่องมือในการออกแบบหน้าจอโปรแกรม
B. ลักษณะต่างๆของคอนโทรลที่ถูกนำมาวางบนฟอร์มที่เราสามารถกำหนดค่าได้
C. การใช้คำสั่งกำหนดให้คอนโทรลตอบสนองต่อเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น
D. ใช้เหมือนกับ ActiveX EXE แต่จะถูกเก็บในรูปของ .dllซึ่งไม่สามารถรันได้ด้วยตัวมันเอง จะต้องถูกเรียกใช้งานจากโปรแกรมอื่นๆ
ANSWER: A
ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนหลักในการสร้างโปรแกรมใน VB2008
A. การใช้คอนโทรลออกแบบหน้าจอโปรแกรม
B. การกำหนดคุณสมบัติของคอนโทรล
C. การเขียนโปรแกรม
D. การเขียน ER Diagram
ANSWER: D
คอนโทรล Formถูกนำมาใช้เพื่อทำสิ่งใด
A. เพื่อเป็นที่วางของคอนโทรลอื่นๆ
B. เพื่อใช้ในการรับและแสดงข้อมูลทั้งตัวอักษรและตัวเลข
C. เพื่อแสดงข้อความที่ต้องการบน Form
D. เพื่อช่วยในการแบ่งกลุ่มคอนโทรลต่างๆให้เป็นระเบียบ
ANSWER: A
ถ้าต้องการใส่รูปลงไปหน้าข้อความ "MyForm Caption" จะต้องไปกระทำที่ใด
A. Control
B. Event
C. Method
D. Properties
ANSWER: D
คอนโทรล Labelถูกนำมาใช้เพื่อทำสิ่งใด
A. เพื่อเป็นที่วางของคอนโทรลอื่นๆ
B. เพื่อใช้ในการรับและแสดงข้อมูลทั้งตัวอักษรและตัวเลข
C. เพื่อแสดงข้อความที่ต้องการบนฟอร์ม
D. เพื่อช่วยในการแบ่งกลุ่มคอนโทรลต่างๆให้เป็นระเบียบ
ANSWER: C
ข้อใดคือคำอธิบายของคุณสมบัติ BorderStyle ของคอนโทรล Label
A. ลักษณะเส้นขอบ
B. กำหนดว่าคอนโทรลจะสามารถมองเห็นได้ในขณะที่โปรแกรมทำงานหรือไม่
C. ตำแหน่งของข้อความที่แสดงบนคอนโทรล
D. กำหนดว่าคอนโทรลจะตอบสนองต่อผู้ใช้ได้หรือไม่
ANSWER: A
คอนโทรลTextBoxถูกนำมาใช้เพื่อทำสิ่งใด
A. เพื่อเป็นที่วางของคอนโทรลอื่นๆ
B. เพื่อใช้ในการรับและแสดงข้อมูลทั้งตัวอักษรและตัวเลข
C. เพื่อแสดงข้อความที่ต้องการบนฟอร์ม
D. เพื่อช่วยในการแบ่งกลุ่มคอนโทรลต่างๆให้เป็นระเบียบ
ANSWER: B
ปกติคอนโทรลTextBoxมักใช้งานร่วมกับคอนโทรลอะไร
A. คอนโทรลComboBox
B. คอนโทรลOptionButton
C. คอนโทรล Frame
D. คอนโทรล Label
ANSWER: D
ข้อดีของ OptionButton คือข้อใด
A. ช่วยในการแบ่งกลุ่มคอนโทรลต่างๆให้เป็นระเบียบ
B. สามารถเลือกได้หลายตัวเลือกในคราวเดียวกัน
C. ไม่กินเนื้อที่ในการจัดวางสามารถเก็บตัวเลือกได้หลายรายการและจะแสดงตัวเลือก ก็ต่อเมื่อมีการเรียกใช้
D. สามารถเลือกได้เพียงตัวเลือกเดียวในกลุ่มหนึ่ง
ANSWER: D
ข้อใดคือประโยชน์ของคอนโทรล OptionButton
A. ช่วยในการแบ่งกลุ่มคอนโทรลต่างๆให้เป็นระเบียบสามารถเคลื่อนย้ายกลุ่มคอนโทรลและจัดการคอนโทรลภายในกลุ่มได้อย่างสะดวก
B. เพื่อความสะดวกในการเลือกของผู้ใช้โดยที่ไม่ต้องพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการเอง
C. เพื่อเป็นที่วางของคอนโทรลอื่นๆเพื่อให้ได้โปรแกรมตามที่ต้องการ
D. เพื่อใช้ในการรับและแสดงข้อมูลทั้งตัวอักษรและตัวเลข
ANSWER: B
ข้อดีของCheckBoxที่แตกต่างจากOptionButtonคือข้อใด
A. ช่วยในการแบ่งกลุ่มคอนโทรลต่างๆให้เป็นระเบียบ
B. สามารถเลือกได้หลายตัวเลือกในคราวเดียวกัน
C. ไม่กินเนื้อที่ในการจัดวางสามารถเก็บตัวเลือกได้หลายรายการและจะแสดงตัวเลือกก็ต่อเมื่อมีการเรียกใช้
D. สามารถเลือกได้เพียงตัวเลือกเดียวในกลุ่มหนึ่ง
ANSWER: B